ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเดทบล็อคเลยหรือแม้แต่แฟนเพจเลย ห่างหายไปนาน แต่ก็ยังมีเพื่อนๆเข้ามาเยี่ยมชมบล็อคอยู่เรื่อยๆ ซึ่งดูจากสถิติที่เก็บไว้อ่ะนะคะ แฟนเพจก็มีเพื่อนๆเข้ามากดไลท์เพจกันอยู่เรื่อยๆ ทั้งที่ยังไม่ได้แชร์เพจออกไป หากเพื่อนคนไหนสะดวกที่เฟสก็ไปอ่านในนั้นก็ได้ค่ะ จะพยายามลงทุกเมนูในทุกช่องทาง ( Facebook Fanpage:D Food And Bakery) เด๋ยวจะทำ YouTube Channel อีกช่องทางนะคะ โปรดติดตามตอนต่อไป (แค่นี้ยังไม่มีเวลาจะเยอะไปไหม55) ก็ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะเวียนเข้ามาสำหรับคนที่รักการทำขนมทำอาหารและอยากหารายได้เสริมจากสิ่งที่เราชอบที่เงียบหายไปก็ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังคงฝึกทำขนมอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ไม่มีเวลาอัพเดทข้อมูลสักเท่าไหร่ ทำงานประจำด้วย กลับบ้านก็งานที่ร้าน(ที่บ้านเปิดร้านขายของชำ) งานบ้านอีก ลูกอีก จะเยอะไปไหม 55 กลัวที่ไหนใช่มั้ยคะ อึดอย่างเราทำได้อยู่แล้ว คอมที่บ้านก็พัง ตอนนี้สต๊อกข้อมูลไว้เต็ม เพียงแต่ยังไม่ค่อยมีเวลาลงรายละเอียด แต่ถ้านานไปก็ลืมเลือนไปเหมือนกันว่าสูตรนั้นสูตรนี้มีข้อผิดพลาดตรงไหน ต้องเพิ่มอะไรส่วนไหน จึงต้องเอาออกมาเก็บไว้ในบล็อคบ้าง เผื่อย้อนกลับมาหาข้อมูลได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา ใครจะทำแบบดาบ้างก็ได้นะคะไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ ยินดีให้คำปรึกษาหากอยากเขียนบล็อคเหมือนกัน อยากหารายได้จากบล็อค อยากหารายได้จาก YouTube คุณมาถูกที่แล้ว55 ** ไปเรื่องอื่นอีกแระ วกกลับมาที่เรื่องขนมกันค่ะ
** จะว่าไป เด๋ยวจะเขียนโพสอีกสักเรื่องให้เป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับการทำบล็อค การทำYouTube, Google Adsense , Add Network มันมีอะไรเยอะแยะมากมายที่เป็นช่องทางหารายได้บนโลกออนไลน์ ไว้คอยติดตามกันนะคะ **
มีแนวคิดนึงอยากให้เพื่อนๆเก็บไปคิดกันนะคะ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน คือตัวดาเองก็ชอบการทำขนม เบเกอรี่ ขนมปัง เค้กวันเกิด คัพเค้กนั่นนู๋นนี่ สารพัดเค้กที่สวยงามน่ารัก ดูดีมีราคา แต่หากวันนึงคุณคิดอยากจะทำขาย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลักๆ มีอะไรบ้าง
มีน้องคนนึงในที่ทำงาน เขาทอดข้าวเกรียบขาย ขายอย่างไร สั่งข้าวเกรียบแผ่นดิบมา เอามาทอด แพคใส่ถุง วางขายในออฟฟิต ต้นทุนถุงละ 5-6 บาท ขาย 20 บาท กำไรกี่เปอร์เซ็นต์คะลองคิดกันดู เอาไปวางแทบทุกแผนก แผนกไหนมีคนสนใจอยากเอาไปขาย น้องส่ง 15.- ให้เขาไปขายเอากำไรกันตามสบาย กี่วันไม่ต้องกลัวบูดเน่า แต่ขอโทษพนักงานออฟฟิตเดินไปหยิบทั้งวัน หลังๆมาน้องก็หาของลักษณะเดียวกันคือของแห้ง อบกรอบ เก็บได้นาน มาวางหลากหลายเพิ่มมากขึ้น กำไรดีมากๆ ไม่มีไรยุ่งยากสลับซับซ้อนให้ปวดตับ ไม่ต้องกลัวของเสีย ทอดไว้เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาแค่หยิบมาทำงานด้วย 20บาทไม่แพงใครๆก็ซื้อ ทุกสิ้นเดือนมีตลาดนัดน้องก็จะเอามาวางขาย ขายแทบไม่ทัน คนซื้อไม่คิดไรมากแค่20บาทซื้อไปเหอะ จริงมั้ย ...
แบบที่น้องทำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือสามารถให้แง่คิดให้มุมมองแก่เราได้ ข้อดีคือความสะดวก ซื้อมาขายไป ลงทุนน้อยไม่ต้องคิดไรมาก เป็นการหารายได้เสริมได้ดีทีเดียว ส่วนข้อเสียคือ ทำเป็นธุรกิจของตัวเองไม่ได้ เพราะต้องอาศัยโปรดักส์หรือสินค้าจากคนอื่นมาขาย ก็ถือว่าน้องควบคุมสินค้าอะไรไม่ได้เลย มาอย่างไรก็ขายแบบนั้น เขาไม่ส่งให้ก็ต้องไปหาเจ้าใหม่ ควบคุมคุณภาพหรืออะไรก็ไม่ได้เลย.
ทีนี้ย้อนกลับมาดูเพื่อนๆในกลุ่มเบเกอรี่ของเราบ้าง เห็นเพื่อนๆในเพจใหญ่ๆหลายเพจ โพสทำขนม ทำเค้กสวยหรู ขนมนั่นนู่นนี่ ขาย10 บาท 20 บาทแพงไปไหมก็จะมีมาถามอยู่เรื่อยๆ ซึ่งวิธีการกว่าจะทำออกมาก็ยุ่งยาก เก็บรักษายาก เสียง่าย ขายถูก ขายไม่หมดทุนหายกำไรหด
(อันนี้เราต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าพวกเราเป็นประเภทแบบมือสมัครเล่น พึ่งเริ่มต้น อยากหารายได้เสริม อยากทำขนมเป็น อยากขายแต่ไม่อยากลงทุนมาก กลัวเจ็บหรือกลัวต่างๆนาๆ ซึ่งถ้าหากเก่งขึ้น ตลาดโตขึ้น อันนั้นเราค่อยมาพิจารณาเรื่องทำเป็นธุรกิจอีกที ข้อคิดในโพสนี้ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนกันไปตามความเหมาะสมของสถานการณ์ของใครของมัน )
เอาล่ะ จากเรื่องน้องขายข้าวเกรียบให้แง่คิดอะไรกับดาบ้าง สรุปมาเป็นข้อๆแบบนี้เพื่อนๆจะได้เข้าใจง่ายๆ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหากอยากทำขนมขาย หารายได้เสริม
1. ขายอะไร ชนิดของขนมที่จะขาย ขายตามเทศกาล ขายตามฤดูกาล ขายในงานสำคัญ โอกาสพิเศษหรือสามารถขายได้ทุกฤดูกาล ขายได้ตลอดเวลา เป็นคุณคุณอยากขายขนมแบบไหน คิดมาสักอย่าง
2. อายุขนม ขนมที่เราทำเก็บได้กี่วัน ลองนึกถึงขนมที่ตัวเองสนใจอยากจะทำขายนะคะ ถ้าเก็บไม่ได้นานก็มีโอกาสขาดทุนสูงหากขายไม่หมด หรือไม่ก็ต้องปรับวิธีการเป็นรับออเดอร์ก่อนแล้วค่อยทำ ต้องจัดสรรเวลาทำให้ได้ตามที่ลูกค้ากำหนด ไม่สามารถทำเก็บไว้ได้
3. การเก็บรักษา ต้องเก็บในตู้เย็นไหม ต้องมีตู้แช่ไหม หากยังไม่ส่งลูกค้าจะเก็บไว้ยังงัย คิดค่ะคิด เปลืองเนื้อที่ไหม มีต้นทุนในการเก็บรักษา ต้องลงทุนซื้อตู้แช่มาเป็นหมื่นๆ เพื่อเก็บรักษาขนมและแช่เก็บวัตถุดิบอีกต่างหาก มันต้องลงทุนสูงขนาดนั้นเลยเหรอสำหรับมือใหม่แต่ใจรักแบบเรา ต้องคิดว่าขนมที่เราทำสามารถเก็บรักษาได้นานที่สุดอย่างไร ใช้เทคโนโลยีถนอมอาหารอะไรได้บ้าง นี่ต้องคิดให้ไกลไปถึงขนาดนั้นเลยเชียว
4. การขนส่ง หากลูกค้าสั่งเค้ก ต้องทนุถนอมขนาดไหนก่อนส่งให้ถึงมือลูกค้า ขนส่งใช้เวลานานๆเนื้ออวิปครีมเป็นอย่างไรกลัวมันละลายไหม ดาเคยรับออเดอร์ทำเค้กวันเกิดหน้านิ่มให้เพื่อน เอามาส่งที่ทำงาน ปั่นจักรยานเอาไปส่งลูกค้าที่แผนก ลูกค้าถือกลับบ้าน หน้านิ่มไหล55 เฮ้อคิดมาแล้วหนื่อย ทนุถนอมกันสุดฤทธิ์
5. ตลาด แคบหรือกว้าง ทำมาแล้วจะขายให้ใคร เอาไปขายที่ไหนได้บ้าง ขายแถวบ้าน ตลาดนัด ขายได้แค่ละแวกนั้น ถ้าแถวนั้นมีคนขายเยอะ อร่อยกว่าของเราอีกจะทำยังงัย ต้องคิดว่าสิ่งที่เราจะขายมันโตได้ไหม ขยายฐานลูกค้าได้ไหม เช่น ส่งทางไปรษณีย์ได้ไหม ขายออนไลน์ได้ไหม น่าคิดนะคะ
เพื่อนๆลองสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว นำมาคิดวิเคราะห์เสมอๆ ศึกษาหาข้อมูลหากสงสัย เมื่อวันนึงพร้อมแล้วลุยเลย ใครพร้อมก่อนลุยก่อน เหนื่อยกับงานของตัวเองมันมีความสุขกว่าทำงานให้คนอื่นรวยนะคะว่ามั้ย...
หลักๆ จากประสบการณ์ของดาเอง ที่คิดวิเคราะห์ออกมาเป็นข้อๆให้เพื่อนๆได้ต่อยอดกัน ตอนนี้เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อนสำหรับอนาคตที่ไม่อยากผูกติดกับงานประจำ สำหรับคนที่เป็นคุณแม่ของลูกๆ เป็นภรรยาของสามี เป็นลูกของแม่ที่แก่เฒ่า อยากทำงานอยู่บ้าน อยากมีเวลาให้ครอบครัวบ้าง...ถ้าคิดว่าเป็นคนประเภทเดียวกันกับดา เข้ามาคุยทักทายกันได้ค่ะ จะคอมเม้นในนี้หรือในเฟสบุคแฟนเพจ D Food And Bakery อาหารสร้างรายได้ เรียนทำขนมด้วยตัวเอง ก็ได้เช่นกันค่ะ เรามีแนวคิดคล้ายๆกัน พูดคุยกันได้ค่ะ